ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ทำไมกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมี?

ประกันภัย พ.ร.บ.

ขายประกันภัยรายได้ดี.com

ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ทำไมกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องมี

หัวใจหลักของ ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  ต้องการให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากการใช้รถ โดยไม่สนใจว่าบุคคลนั้นจะเป็นฝ่ายผิด หรือถูก หากเกิดความเสียหายขึ้น ผู้เสียหายก็จะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล  ค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล  ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดการศพรวมทั้งค่าเสียหายและค่าใช้จ่าย ที่จำเป็นอย่างอื่นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ตามที่แประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  ได้กำหนดไว้

สารบัญ

มีอะไรบ้างที่ ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  คุ้มครอง?

ในกรณีที่เกิดเหตุความเสียหายขึ้นกับรถที่ทำ ประกันภัยตาม พ.ร.บ.  จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน 

         1. คุ้มครองค่าเสียหายเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัติคุมครองผู้ประสบภัยจากรถ
มาตรา ๒๐ เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นแก่ผู้ประสบภัยจากรถที่บริษัทได้รับประกันภัยไว้ให้บริษัทจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยเมื่อได้รับคำร้องขอจากผู้ประสบภัย ความเสียหายที่จะให้ได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น การร้องขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นและการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง

         โดยหลังจากเกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ จะได้รับความคุ้มครองในความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ ค่าเสียหายในกรณีทุพพลภาพ และเป็นค่าปลงศพในกรณีเสียชีวิต โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด โดยบริษัทประกันจะชดใช้ให้แก่ผู้ประสบภัย หรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยภายใน 7 วัน นับจากวันที่บริษัทได้รับคำร้องขอให้บริษัทชดเชยในความเสียหายจากผู้ประสบภัย ดังนี้

         กรณีบาดเจ็บ ผู้ประสบภัยจะได้รับชดเชยเป็นค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท/คน
        กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร หากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวร บริษัทประกันจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวน 35,000 บาท/คน
         กรณีเสียชีวิต ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยจะได้รับการชดใช้เป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพ จำนวน 35,000 บาท/คน

2. คุ้มครองค่าสินไหมทดแทน เป็นค่าเสียหายหลังจากที่พิสูจน์แล้วว่าผู้ประสบภัยเป็นฝ่ายถูก โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามมูลรายละเอียดดังต่อไปนี้
          กรณีได้รับบาดเจ็บ ผู้ประสบภัยจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจริง (มีหลักฐานการชำระเงิน เช่น ใบเสร็จรับเงิน) แต่ไม่เกิน 80,000 บาท/คน
กรณีเสียชีวิต ทายาทโยธรรมของผู้ประสบภัยจะได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท/คน

          กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร ผู้ประสบภัยจะได้รับค่าทดแทน
เป็นจำนวนเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 – 500,000 บาท/คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดที่สูญเสียอวัยวะและเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กฎหมายกำหนด
          ในกรณีที่เข้ารับการรักษาในฐานะ “ผู้ป่วยใน” ภายในสถานพยาบาล ผู้ประสบภัยจะได้รับค่าชดเชยรายวัน วันละ 200 บาท จำนวนรวมกันไม่เกิน 20 วัน

ตารางความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
ความคุ้มครองวงเงินคุ้มครอง (บาท/คน)
1จำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น ได้รับโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด
1.1 ค่ารักษาพยาบาล จากการบาดเจ็บ (ตามจริง)30,000
1.2 การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร35,000
2ค่าเสียหายส่วนที่เกินกว่าค่าเสียหายเบื้องต้น สำหรับผู้ประสบภัย
(จะได้รับภายหลังจากการพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิด)
2.1 ค่ารักษาพยาบาล จากการบาดเจ็บไม่เกิน 80,000
2.2 สูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพอย่างถาวร หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง200,000-500,000
2.3 การเสียชีวิต500,000
2.4 ชดเชยรายวัน 200 บาท รวมกันไม่เกิน 20 วัน กรณีเข้าพักรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในสูงสุดไม่เกิน 4,000

หมายเหตุ :

  • ผู้ขับขี่ที่กระทำละเมิด (ฝ่ายผิด) จะได้รับแค่ ความคุ้มครอง ค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น
  • ผู้ประสบภัย หมายถึง ผู้ขับขี่ที่ถูกละเมิด ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก
  • จำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของจำนวนเงินคุ้มครองผู้ประสบภัย (ดูในกรมธรรม์)
ประกันภัย พ.ร.บ.

อัตราเบี้ย ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ทำไมกำหนดรถทุกคันต้องมี? ราคาเท่าไหร?

          นอกจากรถยนต์ที่ต้องทำและต่ออายุ ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ทุกปี ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก ต้องทำ พ.ร.บ. ซึ่งอัตราเบี้ยประกันภาคบังคับ จะเป็นอัตราเบี้ยคงที่ ไม่มีการเพิ่ม แต่ราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทและขนาดของรถ
          มาตรา ๗ ภายใต้บังคับมาตรา ๘ เจ้าของรถซึ่งใช้รถหรือมีรถไว้เพื่อใช้ต้องจัดให้มีการประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยโดยประกันภัยกับบริษัท
จำนวนเงินเอาประกันภัย ให้กำหนดตามชนิด ประเภท และขนาดของรถ แต่ต้องไม่น้อยกว่าจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง
         ค่าเบี้ยจะขึ้นอยู่กับประเภทรถและขนาดของรถ โดยค่าเบี้ยที่ระบุด้านล่างนี้ได้รวมค่าอากรแสตมป์ และภาษีมูลค่าเพิ่มไว้เรียบร้อยแล้ว

อัตราค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล
(บาท/ปี)
รับจ้าง/ให้เช่า/สาธารณะ
(บาท/ปี)
รถยนต์โดยสาร
รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน (พรบ รถเก๋ง)645.212,041.56
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน ไม่เกิน 15 ที่นั่ง (พรบ รถตู้)1,182.352,493.10
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 15 ที่นั่ง ไม่เกิน 20 ที่นั่ง2,203.133,738.58
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 20 ที่นั่ง ไม่เกิน 40 ที่นั่ง3,437.917,155.09
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 40 ที่นั่ง4,017.858,079.57
รถยนต์บรรทุก
รถยนต์บรรทุกน้ำหนักไม่เกิน 3 ตัน (พรบ รถกระบะ)967.281,891.76
รถยนต์บรรทุกน้ำหนักเกิน 3 ตัน ไม่เกิน 6 ตัน1,310.751,966.66
รถยนต์บรรทุกน้ำหนักเกิน 6 ตัน ไม่เกิน 12 ตัน1,408.122,127.16
รถยนต์บรรทุกน้ำหนักเกิน 12 ตัน1,826.492,718.87
รถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส หรือกรด ขนาดน้ำหนักรวมไม่เกิน 12 ตัน1,805.092,127.16
รถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส หรือกรด ขนาดน้ำหนักรวมเกิน 12 ตัน2,493.103,288.11
รถยนต์ประเภทอื่นๆ
หัวรถลากจูง2,546.603,395.11
รถพ่วง645.21645.21
รถป้ายแดง (สำหรับการค้ารถยนต์)1,644.591,644.59
รถยนต์ที่ใช้ในการเกษตร97.3797.37
รถยนต์ประเภทอื่นๆ828.18828.18
รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้า645.212,041.56

ข้อมูลอัตราเบี้ย พ.ร.บ.รถยนต์ จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

ถ้าหากเราไม่ทำ ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  จะมีโทษ อย่างไรบ้าง?

หากรถคันที่เราใช้งานไม่จัดให้มีการทำ ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถนั้นเป็นประกันภาคบังคับ หากไม่ทำก็จะมีโทษเป็นค่าปรับ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. มาตรา ๓๗ เจ้าของรถผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๗ หรือมาตรา ๙ ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (กรณีเจ้าของรถไม่ทำประกัน พ.ร.บ. มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท)
  2. กรณีคนที่ไม่ใช่เจ้าของรถ ขับขี่รถคันที่ไม่ได้ทำหรือไม่ได้ต่ออายุประกัน พ.ร.บ. มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
  3. มาตรา ๔๐ เจ้าของรถหรือผู้ใช้รถผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา๑๒หรือบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท (กรณีเจ้าของรถหรือผู้ใช้รถต้องเก็บรักษาหลักฐานแสดงการมีประกันความเสียหาย ไว้ให้พร้อมที่จะแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทุกเวลาที่ใช้รถ)

ในกรณีที่หากเกิดเหตุ รถคู่กรณี ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยรถ หมดอายุ ต้องทำอย่างไร?

เมื่อมีกรณีผู้ประสบภัยตาม ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยรถ ไม่อาจขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากเจ้าของรถซึ่งมีได้จัดให้มีการประกันความเสียหายหรือจากบริษัทที่รับประกันภัยได้ผู้ประสบภัยอาจยื่นคำร้องขอรับคำเสียหายเบื้องต้นต่อสำนักงาน กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ตามแบบที่นายทะเบียนหรือ คปภ  กำหนด และต้องมีหลักฐานดังนี้

(๑) ความเสียหายต่อร่างกายที่มีการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล

          (ก) ใบเสร็จรับเงิน หรือหลักฐานกรแจ้งหนี้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลในกรณี

          (ข) สำเนาบัตรประจำตัวหรือหลักฐานอื่นใดที่ทางราชการเป็นผู้ออกให้ สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวหรือสำนาหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานอื่นใดที่นายทะเบียนประกาศกำหนดซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่มีชื่อในหลักฐานนั้นเป็นผู้ประสบภัย แล้วแต่กรณี

          (ค) สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวนในกรณีที่ผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกายอย่างหนึ่งอย่างใด จนกลายเป็นเหตุให้มีสิทธิได้รับเงินค่าเสียหายเบื้องต้นเพิ่มขึ้นอีกจำนวนสามหมื่นห้าพันบาท นอกจากต้องยื่นหลักฐานตาม (ก) (ข) และ (ค) แล้ว ให้ยื่นใบรับรองรองแพทย์หรือความเห็นแพทย์หรือหลักฐานอื่นใดที่ระบุว่าเป็นผู้ประสบภัยซึ่งได้รับความเสียหายต่อร่างกายดังกล่าวด้วย

(๒) ความเสียหายต่อชีวิต

          (ก) สำเนามรณะบัตร หรือหลักฐานอื่นใดที่นายทะเบียนประกาศกำหนดซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่มีชื่อในหลักฐานนั้นเป็นผู้ประสบภัย

         (ข) สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวนในกรณีที่ผู้ประสบภัยถึงแก่ความตายภายหลังจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล นอกจากต้องยื่นหลักฐานตาม (๒) แล้ว ให้ยื่นหลักฐานตาม (๑) ด้วย

สามารถต่อ  ประกันภัย พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ล่วงหน้าได้ไหม?

ได้เฉพาะกรณีต่ออายุ ประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เท่านั้น โดยสามารถซื้อล่วงหน้าได้สูงสุดไม่เกิน 90 วัน

คำถามที่พบบ่อย : FAQ

สรุป 

กฎหมายบังคับให้รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ทุกคันทุกประเภท จะต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับคือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ “เรามักเรียกว่า ประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.”
ซึ่งคุ้มครองทุกคนที่ประสบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต บาดเจ็บ ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ
จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. นี้เป็นค่ารักษาพยาบาล หรือค่าปลงศพแล้วแต่กรณี แต่่ไม่รวมค่าเสียหายของทรัพย์สิน หรือเรียกง่ายๆว่า คุ้มครองคน ไม่คุ้มครองรถ นั่นเอง

หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะซื้อจากบริษัทไหน และแบบไหนถึงจะคุ้มค่าที่สุด ให้ เรา แนะนำสิครับ เราเป็นโบรกเกอร์ที่มีแผนประกันภัยจากบริษัทชั้นนำให้คุณได้เลือกมากมาย พร้อมเปรียบเทียบประกันแต่ละแบบให้เห็นถึงความคุ้มค่า รับรองเลยว่าประกันที่ได้จะถูกใจคุณอย่างแน่นอน ขายประกันภัยรายได้ดีดอทคอม ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ 

ประกันภัย พ.ร.บ.

อันดับแรกรวบรวมรายละเอียดและข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุแจ้งให้บริษัทประกัน ทราบทันที (ตามเบอร์โทรศัพท์ที่หน้าตารางกรมธรรม์) แบ่งวิธีการเรียกร้องเป็นดังนี้

 

  • เอกสารเบิกจ่ายค่าสินไหม  กรณีบาดเจ็บ
  1. บัตรประชาชน (ผู้ขับขี่ และ ผู้บาดเจ็บ)

  2. ใบขับขี่ (ผู้ขับขี่)

  3. สำเนาทะเบียนรถ

  4. สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้ขับขี่และผู้บาดเจ็บ)

  5. หน้าตารางกรมธรรม์ (พรบ)
  6. บันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน
  7. ใบเสร็จรับเงิน (ฉบับจริง)
  8. ใบรับรองแพทย์

** กรณีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล มอบอำนาจให้ทางโรงพยาบาลยื่นเรื่องเบิกให้ได้ **

 

  • เอกสารเบิกจ่ายค่าสินไหม กรณีเสียชีวิต
  1. บัตรประชาชนผู้ขับขี่
  2. สำเนาทะเบียนบ้านผู้ขับขี่
  3. สำเนาทะเบียนรถ
  4. หน้าตารางกรมธรรม์ (พรบ)
  5. บันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน
  6. ใบมรณะบัตร
  7. ใบชันสูตรพลิกศพ หรือหนังสือรับรองการตาย

  8. บัตรประชาชน + ทะเบียนบ้าน (ผู้เสียชีวิต)

  9. เอกสารบัตรประชาชน + ทะเบียนบ้าน ของผู้รับประโยชน์ (ทายาทโดยธรรม) 

** กรณีที่มีทายาทโดยธรรมมากกว่า 1ท่าน ต้องทำการมอบอำนาจให้ญาติผู้เสียชีวิต 1ท่าน ที่ได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว **

  • สิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหาย
  1. กรณีบาดเจ็บ ค่าเสียหายเบื้องต้น จ่ายตามจริง ไม่เกิน 30,000 บาท
  2. กรณีเสียชีวิต ค่าเสียหายเบื้องต้น ไม่เกิน 35,000 บาท

หมายเหตุ ! 

  1. หากเกิดทั้งสองกรณี บริษัทฯ รับผิดชอบค่าเสียหายเบื้องต้น ไม่เกิน 50,000 บาท (ผู้ขับขี่และผู้บาดเจ็บ)

  2. ไม่ต้องรอพิสจน์ ถูก - ผิด (บริษัทฯ จ่ายภายใน 7 วันนับจากวันยื่นเอกสารครบ

 

กรณีบาดเจ็บ

  1. ผู้ขับขี้ที่เป็นฝ่ายถูก / ผู้โดยสาร (ทั้งที่โดยสารคันที่ถูกหรือผิด / คนเดินเท้า) ไม่เกิน 50,000 บาท

กรณีเสียชีวิต

  1. ผู้ขับขี้ที่เป็นฝ่ายถูก / ผู้โดยสาร (ทั้งที่โดยสารคันที่ถูกหรือผิด / คนเดินเท้า) ไม่เกิน 200,000 บาท

กรณีบาดเจ็บ ที่หาผู้รับผิดชอบไม่ได้

  1. ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด เบิกได้ไม่เกินค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น

กรณีเสียชีวิต ที่หาผู้รับผิดชอบไม่ได้

  1. ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด เบิกได้ไม่เกินค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น

หมายหตุ ! หลังจากกราบผลคดีแล้ว ว่าใคร ผิด - ถูก จากเจ้าพนักงานสอบสวน หรือเมื่อคดีถึงที่สุดในชั้นศาล