บุคคลภายนอก คือใครมีความหมายและเกี่ยวข้องอย่างไร ในนิยามความหมายของประกันภัยรถยนต์

บุคคลภายนอกคือใครมีความหมายเกี่ยวข้องอย่างไร ในนิยามความหมายของระกันภัยรถยนต์

ขายประกันภัยรายได้ดี.com

บุคคลภายนอก คือใคร มีความหมายและความเกี่ยวข้องอย่างไรในนิยามความหมายของประกันภัยรถยนต์

        คำว่า "บุคคลภายนอก " ตามพจนานุกรม ฉบับบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔  ให้ความหมายว่า บุคคลที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญา แต่อาจมีสิทธิเกี่ยวข้อง ในความหมายของการประกันภัย ให้นิยามความหมาย ว่า บุคคลภายนอก ได้แก่ ประชาชน บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันหรืออาจเกี่ยวข้องกัน แต่ไม่ใช่คู่สมรส บิดามารดา บุตร ของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ นั่นเอง

 

สารบัญ

กรณีใดที่บุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการประกันภัยภัย

       เป็นข้อตกลงความคุ้มครองของบริษัทผู้รับประกันภัยที่จะต้องจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความสูญเสีย หรือความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแก่  บุคคลภายนอก ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เนื่องจากอุบัติเหตุอันเกิดจากรถยนต์ที่ใช้ หรืออยู่ในทาง หรือสิ่งที่บรรทุก หรือติดตั้งในรถยนต์นั้น ในระหว่างระยะเวลาประกันภัย ในนามผู้เอาประกันภัย ในขณะนั้น

 

ความผิดแบบใดที่ บุคคลภายนอก ได้รับความคุ้มครอง

       การคุ้มครองตามสัญญาหมวดความรับผิดในกรมธรรม์ประกันภัยนั้น เป็นการคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยค้ำจุน หรือการประกันภัยความรับผิดของผู้เอาประกันภัยที่มีต่อบุคคลภายนอก ซึ่งความรับผิดตามกฎหมายของผู้เอาประกันภัยที่บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก ต้องเป็นความรับผิดจากอุบัติเหตุอันเกิดจากรถยนต์ที่ใช้รถยนต์ที่อยู่ในทางสิ่งที่บรรทุก หรือติดตั้งในรถยนต์นั้น ดังนั้นหากความรับผิดของผู้เอาประกันภัยมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น ผู้ขับขี่ตั้งใจขับรถยนต์คันเอาประกันภัยชนรถคันอื่น หรือบุคคลอื่น หรือเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ไม่ใช่อุบัติเหตุอันเกิดจากรถยนต์ที่ใช้ รถยนต์ที่อยู่ในทาง สิ่งที่บรรทุก หรือติดตั้งในรถยนต์นั้นแล้ว บริษัทก็ไม่จำต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างใด

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม คปภ.

กรณีบุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้อย่างไร

            เมื่อเกิดความเสียหายจากความผิดของผู้เอาประกันภัย บุคคลภายนอกผู้เสียหายมีสิทธิเรียกให้ผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ตนโดยตรงได้ โดยไม่จำต้องชดใช้ให้แก่ผู้เอาประกันภัยก่อน แล้วค่อยให้ผู้เอาประกันภัยมาชดใช้ให้แก่บุคคลภายนอกผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น บุคคลภายนอกผู้เสียหายแทนที่จะได้รับการทุเลาความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยทันท่วงที กลับต้องรอเนิ่นช้าออกไป กฎหมายจึงบัญญัติเป็นพิเศษให้บุคคลภายนอกผู้เสียหายสามารถเรียกร้องโดยตรงเอากับผู้รับประกันภัยได้เลย แม้จะมิได้มีความสัมพันธ์เป็นคู่สัญญาประกันภัยเหมือนดังเช่นในสัญญาประกันวินาศภัยอื่นทั่วไป จึงจะมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนได้

          อย่างไรก็ดี แม้ผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไปให้แก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว ก็มิได้ส่งผลทำให้สิทธินี้ของบุคคลภายนอกต้องหมดสิ้นไป บุคคลภายนอกผู้เสียหายนั้นคงยังมีสิทธิเรียกให้ผู้รับประกันภัยชดใช้ให้แก่ตนได้เช่นเดิม และผู้รับประกันภัยต้องปฏิบัติตามอย่างหลีกเสี่ยงมิได้ จากนั้นค่อยไปติดตามเรียกเงินที่ได้จ่ายไปนั้นกลับคืนมาจากผู้เอาประกันภัยเอง เว้นเสียแต่พิสูจน์ได้ว่า บุคคลภายนอกผู้เสียหายนั้นได้รับการชดใช้จากผู้เอาประกันภัยเรียบร้อยแล้ว สำหรับจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่ผู้รับประกันภัยจ่ายมาให้นั้น

ขอบเขตของความรับผิดต่อบุคคลภายนอกของผู้รับประกัน

  • ผู้รับประกันภัยมีหน้าที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่เกินกว่าความรับผิดของตน ภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย หรือตามกรมธรรม์ประกันภัยของผู้รับประกันภัยจำกัดอยู่เพียงไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ได้ตกลงกันไว้กับผู้เอาประกันภัยเท่านั้น
  • ผู้เอาประกันภัยยังจำต้องรับผิดในเงินที่ขาดอยู่ เมื่อค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับมาจากผู้รับประกันภัยนั้นไม่เพียงพอแก่ความเสียหายที่เกิดขึ้น บุคคลภายนอกผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้เอาประกันภัยรับผิดในจำนวนเงินที่ขาดอยู่ได้ เว้นแต่บุคคลภายนอกผู้เสียหายมิได้เรียกผู้เอาประกันภัยเข้ามาในคดีที่ฟ้องเรียกร้องให้ผู้รับประกันภัยรับผิด

ข้อยกเว้นที่ไม่สามารถนำมาปฎิเสธความรับผิดต่อบุคคลภายนอกได้

ข้อยกเว้นในกรณี เมาแล้วขับ ที่บริษัทปฎิเสธความรับผิดต่อผู้เอาประกันแต่ไม่สามารถนำมาปฎิเสธความรับผิดต่อบุคคลภายนอกได้ ดังนี้

  • ปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดของผู้ขับขี่ในขณะเกิดเหตุมาเป็นตัวกำหนด ฉะนั้น ถ้าไม่มีการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดแล้ว บริษัทก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ แม้ผู้ขับขี่จะมีพฤติกรรมที่น่าเชื่อว่าเมาสุราก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามหากเจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะทำการทดสอบวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้ทำการทดสอบ จนเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ฐานขับรถขณะเมาสุราตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และผู้ขับขี่ได้ยอมรับผิด หรือศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษในความผิดดังกล่าว ก็ถือว่าผู้ขับขี่เมาสุรา
  • ปริมาณแอลกอฮอล์คำนวณตามหลักทาง การแพทย์ของแพทยสภาและตามผลการวิจัยของสถาบันนิติเวชวิทยากรมตำรวจ เรื่อง การลดลงของระดับแอลกอฮอล์ในเลือดภายหลังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (ผลการวิจัยของทั้ง 2 สถาบัน) “ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดภายหลังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะลดลงภายหลังดื่มครั้งสุดท้ายประมาณ 15มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อชั่วโมง) เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะใช้วิธีการใด หรือตรวจวัดเวลาใด หากผลที่ได้เมื่อเทียบค่าออกมาแล้วปรากฎว่า ผู้ขับขี่นั้นในขณะเกิดเหตุมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับบุคคลทั่วไป หรือเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือโดยบุคคลที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว หรือโดยบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถหรืออยู่ระหว่างพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
  • แหล่งข้อมูล คปภ.

สรุป 

 แต่อย่างไรก็ตามเรา รถทุกคันก็ควรมีการจัดทำประกันทั้งทางภาคบังคับ และภาคสมัครใจ ซึ่งเรามีวิธีลดค่าเบี้ยประกัน ด้วยการสมัครสมาชิกรับส่วนลด หรือ เชคเบี้ยประกันรถด้วยตนเอง หรือให้เราแนะนำแบบประกันพร้อมส่วนลด ให้เหมาะกับการใช้งานรถเป็นสำคัญจะดีกว่าครับ

คำถามที่พบบ่อย :


ข้อยกเว้นนี้ ที่ไม่สามารถนำมาปฎิเสธความรับผิดต่อบุคคลภายนอกได้

  • นำปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดของผู้ขับขี่ในขณะเกิดเหตุมาเป็นตัวกำหนด ฉะนั้น ถ้าไม่มีการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดแล้ว บริษัทก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ แม้ผู้ขับขี่จะมีพฤติกรรมที่น่าเชื่อว่าเมาสุราก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามหากเจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะทำการทดสอบวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้ทำการทดสอบ จนเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ฐานขับรถขณะเมาสุราตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และผู้ขับขี่ได้ยอมรับผิด หรือศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษในความผิดดังกล่าว ก็ถือว่าผู้ขับขี่เมาสุรา
  • การตรวจปริมาณแอลกอฮอล์คำนวณตามหลักทาง การแพทย์ของแพทยสภาและตามผลการวิจัยของสถาบันนิติเวชวิทยากรมตำรวจ เรื่อง การลดลงของระดับแอลกอฮอล์ในเลือดภายหลังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (ผลการวิจัยของทั้ง 2 สถาบัน) "ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดภายหลังการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะลดลงภายหลังดื่มครั้งสุดท้ายประมาณ 15มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อชั่วโมง) เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะใช้วิธีการใด หรือตรวจวัดเวลาใด หากผลที่ได้เมื่อเทียบค่าออกมาแล้วปรากฎว่า ผู้ขับขี่นั้นในขณะเกิดเหตุมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับบุคคลทั่วไป หรือเกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือโดยบุคคลที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว หรือโดยบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถหรืออยู่ระหว่างพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ

ยกตัวอย่าง นายส.กับพวกรวม 5 คน ได้ขับรถคันเอาประกันภัยเดินทางไปทำธุระ ซื้ออาหาร เครื่องดื่มไปรับประทานบนรถ และคนในรถได้ขว้างเศษวัสดุต่าง ๆออกนอกรถไปโดนรถที่วิ่งตามหลังมาเสียหาย แม้ความเสียหายของรถที่วิ่งตามมาจะเป็นความรับผิดตามกฎหมายของผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสารที่เป็นผู้ขว้างเศษวัสดุต่าง ๆ ก็ตาม แต่มิใช่ความรับผิดอันเกิดจากรถที่ใช้อยู่ในทาง สิ่งที่บรรทุกหรือติดตั้งในรถคันเอาประกันภัย ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นจึงไม่ได้รับความคุ้มครองแต่หากเป็นกรณีของที่บรรทุกอยู่ในรถยนต์คันเอาประกันภัยตก หล่น หรือผู้ขับขี่ และ/หรือ ผู้โดยสารเปิดประตูรถไปโดนคน หรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นเสียหายถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุอันเกิดจากรถยนต์ที่ใช้ รถยนต์ที่อยู่ในทางสิ่งที่บรรทุก หรือติดตั้งในรถยนต์นั้น ความเสียหายของชีวิต ร่างกาย อนามัย หรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก จึงได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุอันเกิดจากรถที่ใช้ รถยนต์ที่อยู่ในทาง สิ่งที่บรรทุก หรือติดตั้งในรถยนต์นั้นให้รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้สิ่งที่ติดตั้งอยู่ในรถนั้นด้วย แม้ว่าการใช้นั้นจะมิได้ใช้อย่างสภาพการเป็นรถยนต์ก็ตาม

 ซึ่ง**ความรับผิดตามกฎหมาย** ของ**ผู้เอาประกันภัย**ที่บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่**ความรับผิดตามกฎหมายที่ ต้องเป็นความรับผิดจากอุบัติเหตุอันเกิดจาก

- รถยนต์ที่ใช้

-รถยนต์ที่อยู่ในทาง

- สิ่งที่บรรทุก

- อุปกรณ์ที่ติดตั้งในรถยนต์นั้น